#รวยโดยไม่ต้องง้อใคร ชีวิตสง่างามดุจดั่งนางพญา ธุรกิจเป็นที่หนึ่ง ไม่เป็นที่สองรองใคร... #พระนางพญาพิษณุโลก กรุวัดสุดสวาสดิ์ สภาพเดิมๆไม่ล้างคราบกรุ ไม่ล้างหน้าพระ #พิมพ์ใหญ่(หายาก) เป็นพระในยุคเดียวกันกับพระนางพญากรุวัดนางพญา #พร้อมบัตรรับรองพระแท้จากทางสมาคมนิตยสารท่าพระจันทร์ หากกล่าวถึงพระเครื่องเมือง”พิษณุโลก”แล้ว นักเลงพระส่วนใหญ่จะต้องนึกถึง “พระนางพญา กรุวัดนางพญา” นับเป็นพระเครื่องยอด ปรารถนาของนักเลงพระทั่วไป เป็น 1 ใน 5 ของพระชุดเบญจภาคีที่หายากยิ่งและมีราคาแพงมาก แต่ในความทรงจําของนักเลงพระรุ่นเก่าๆ สมัยคุณปู่คุณตาและคุณพ่อ ยังคงกล่าวขวัญถึง ”พระนางพญา” อีกกรุหนึ่ง ก็คือ “พระนางพญา กรุวัดสุดสวาสดิ์” หรือที่เซียนพระบางท่านเรียกว่า “พระนางพญาสุดสวาท” อันเนื่องมาจากพระกรุนี้บางองค์มีเนื้อพระ “สีสวาด” คือสีเทาอมเขียว ส่วนคําว่า สวาด, สวาท หรือ สวาสดิ์ มีความหมายว่า “รักใคร่ ยินดี” ................................................ วัดสุดสวาสดิ์ อยู่หมู่ที่ 3 บ้านบางสะแก ต.บ้านคลอง อ.เมือง จ.พิษณุโลก จากนิตยสารรายสองเดือน”ศิลปากร” ของกรมศิลปากร กระทรวงศึกษาธิการปีที่ 38 ฉบับที่ 2 มีนาคม-เมษ ด้วยเหตุที่ “พระนางพญาสุดสวาท” หาชมได้ยากมากนี่เอง กลับเป็นแรงจูงใจให้นักเลงพระรุ่นใหม่กลุ่มหนึ่ง นําโดย คุณสันต์ วิวัฒนวาณิชย์ และเพื่อน ซึ่งต่างมีความศรัทธาพระกรุนี้ ร่วมแรงร่วมใจกันติดตามค้นหา ใช้ความพยายามอยู่นานจึงเช่าพระได้มาบ้าง ทําให้พระที่เกือบจะสูญหายไป จากตลาดพระ กลับมาสดใสขึ้นอีกวาระหนึ่ง ................................................ สําหรับ “สีของพระนางพญาสุดสวาท” ชุดนี้มีอยู่ด้วยกัน 6 สี ได้แก่ สีเหลือง สีเขียว สีแดง สีดํา สีผ่าน (หรือ 2 สี เท่าที่ปรากฎมี สีแดงดํา แดงเขียว สวาทดํา) และสีสวาทสีคล้าย ลูกสวาท หรือสีเทาอมเขียว มีทั้งเทาอ่อนและเทาแก่เกือบดํา นับได้ว่าเป็นพระชุดที่มีสีแปลกแตกต่างไปจากพระกรุอื่นๆ ของจังหวัดพิษณุโลก สีสวาทนี้เป็นสีที่มีเฉพาะกรุนี้กรุเดียว และพระองค์ที่มีสวาทจะมีราคาแพงกว่าสีอื่นๆ อีกด้วย ................................................ หลักการพิจารณา”พระนางพญาสุดสวาท” 1.กรอบพระด้านขวา (องค์พระ) จะเป็นเส้นคู่ขนาน ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของพระกรุนี้ ต้องจําให้แม่นยํา เว้นเฉพาะ “พระพิมพ์อกนูน” จะไม่มีเส้นคู่ขนานที่ว่านี้ 2.พิจารณาจากคราบราดํา เพราะพระกรุนี้อายุหลายร้อยปี อยู่ในกรุและจมดินอยู่นาน พระบางองค์จะเกิดคราบราดําเกาะติดอยู่ไม่มากก็น้อย เฉพาะพระสีดําหรือสีเขียวแก่มักจะปรากฏ คราบสีขาว แต่เท่าที่ผู้เขียนเห็นพระหลายองค์ พระบางองค์ ก็มีทั้งคราบราดําและคราบสีขาว ในองค์เดียวกัน 3.หากพระที่ท่านพบหรือได้มาเป็น สีสวาทเทา เชื่อได้ว่าเป็นพระแท้เพราะเป็นสีเฉพาะของพระกรุนี้เท่านั้น 4.พิจารณาจากแร่ดอกมะขาม หากพระองค์ใดถูกใช้มาแล้วจะปรากฏให้เห็น โดยเฉพาะพิมพ์หูถ่าง จะพบแร่ดอกมะขามมากกว่าพิมพ์อื่นๆ 5.พิจารณาจาก แร่ทรายทอง เพราะพระบางองค์จะมีทรายสีทองปรากฏให้เห็น ................................................ พร้อมกับทําหนังสือขออนุญาตอาราธนา “พระภิกษุสมปอง ตโมนุโท” จากเจ้าอาวาสวัดราชบูรณะ จ.พิษณุโลก เข้าไปจําพรรษาและเป็นพระภิกษุ หัวหน้าปกครองวัดสุดสวาสดิ์...จนถึงทุกวันนี้ ผู้เขียนมีโอกาสเห็นพระชุดนี้หลายองค์ จึงใคร่ขอจําแนกพิมพ์ โดยอาศัยคําบอกเล่าของนักเลงพระรุ่นเก่าๆ ประกอบกับการพิจารณาจากที่ได้เห็น ในขณะนี้ สรุปได้ดังนี้ หน้าเอียง 1 หน้าตรง 2 พิมพ์ต่างๆมีดังนี้ครับ 1.พิมพ์หูชิดหรือ หูกระต่าย พระพิมพ์นี้ นับว่าเป็นพระที่มีความงาม