รับประกันแท้ 100 เหรียญเจริญพรล่าง หลวงพ่อคูณ เนื้ออัลปาก้าลงยาธงชาติ สวยวิบวับ ออกปี 2557 มาพร้อมกรอบเงิน หัวบัวสุโขทัย แบบแฮนด์เมด สวย งดงามมาก สนใจศิลปะมงคล และงานศิลปะเพื่อการสะสม แวะ Aesthetics Arts หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เป็นบุตรของ คุณ พ่อบุญ แม่ทองขาว ฉัตรพลกรัง เกิดที่บ้านไร่ ต กุดพิมาน อ ด่านขุนทด จ นครราชสีมา เมื่อวันพฤหัสบดี ที่ 4 ต ค ปี 2466 ตรงกับแรม 10 ค่ํา เดือน 10 ปีกุน มีน้องสาว ร่วมสายโลหิตเดียวกัน 2 คน คือ 1 นาง คํามั่น วงษ์กาญจนรัตน์ 2 นาง ทองหล่อ จันเพ็ง ชีวิตในเยาว์วัย หลวงพ่อคูณ ถือกําเนิดในตระกูลที่ยากจน บิดา-มารดามีอาชีพ ทํานา-ทําไร่ เมื่อ ปี 2477 หลวงพ่อคูณ มีอายุได้ 11 ปี โยมแม่ได้ถึงแก่กรรม จากนั้นโยมพ่อได้นําหลวงพ่อคูณไปฝากเป็นศิษย์ไว้ที่วัดบ้านไร่ เพื่อให้เรียนหนังสือกับพระสงฆ์ โดยมีพระอาจารย์ หลี อารกฺขยโย พระอาจารย์ เชื่อม วิรโช พระอาจารย์ ฉายา กิตฺติปญฺโญ ทั้งสามรูปล้วนแต่เป็นเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ในเวลาต่อมาด้วยกันทั้งสิ้น พระอาจารย์ หลี นอกจากสอนให้ท่องหนังสือสวดมนต์แล้ว ยังเป็นทั้งครูสอนภาษาไทย และภาษาขอม แล้วท่านยังเป็นครูที่เข้มงวดมาก ทั้งเฆี่ยน ตี จนหลวงพ่อคูณกลัว และตั้งอกตั้งใจเรียน เมื่อหลวงพ่อคูณ มีอายุได้ 16 ปี ได้ออกจากวัดบ้านไร่ ไปอยู่ในความอุปการะของน้าชาย ชื่อ โหม น้าสะใภ้ ชื่อ น้อย ศิลปะชัย หลวงพ่อคูณได้ช่วยน้าทั้งสองทํา ไร่ทํานาอย่างหามรุ่งหามค่ําด้วยความขยันขันแข็ง อยู่มาวันหนึ่ง หลวงพ่อคูณ รู้สึกเหน็ดเหนื่อยมาก จึงได้ทอดกายนอนเผลอหลับอยู่บนคันนาเป็นเวลานาน นาง น้อยน้าสะใภ้เห็นหลานนอนเช่นนั้น จึงพูดเชิงเปรียบเทียบขึ้นว่า คูณไม่ไหวเหรอหลาน ถ้าไม่ไหวก็ไปบวช เมื่อหลวงพ่อคูณได้ยินเช่นนั้น จึงตอบขึ้นว่า น้าคอยดูเด้อหากฉันได้บวชแล้ว ขอรับรองว่าฉันจะไม่ยอมสึกเป็นอันขาด จะบวชจนวันตายเลยแหละ หลวงพ่อคูณอยู่กับน้าได้ 2 ปี ด้วยความเป็นคนหนุ่มหลวงพ่อคูณ อยากเป็นหมอเพลงโคราช จึงได้ชวนนาย เล เพียมขุนทด ซึ่งเป็นญาติอายุอยู่ในวัยเดียวกัน อยู่บ้านเดียวกัน และมีน้ําเสียงไพเราะกังวานเดินทางด้วยเท้าบุกป่าฝ่าดงจากบ้านไร่ ต กุดพิมาน อ ด่านขุนทด มุ่งหน้าสู่บ้านมะระ ต ดอนชมพู อ โนนสูง ซึ่งต้องใช้เวลาเดินเท้าถึง 5 วัน 5 คืน เมื่อไปถึงบ้านมะระแล้ว จึงได้ฝากตัวเป็นศิษย์ของครูสน ซึ่งเป็นครูเพลงที่มีชื่อเสียง มีลูกศิษย์ลูกหาชายหญิงเป็นจํานวนมาก เมื่อครูสนทราบความประสงค์และมีความตั้งใจอย่างแน่วแน่ จึงได้รับหลวงพ่อคูณและนาย เล เป็นศิษย์โดยการช่วยครูสน ทํานาเพื่อเป็นการแรกเปลี่ยนกับการหัดเป็นหมอเพลงโคราช ในขณะที่หัดเป็นหมอเพลงอยู่นั้น หลวงพ่อคูณ ได้พบหญิงสาวที่ถูกใจอยู่คนหนึ่ง ชื่อว่า รําพึง ซึ่งต่อมาได้เป็นหมอเพลงที่มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่รู้จักในวงการเพลงโคราช หลวงพ่อคูณได้แต่แอบรักอยู่ โดยฝ่ายหญิงไม่ได้รู้อยู่เป็นเวลาแรมปี ครั้นจะบอกให้เขารู้ความในใจก็นึกกระดากอาย จึงเก็บความในใจเอาไว้แต่เพียงผู้เดียว ต่อมาหลวงพ่อคูณได้ตัดสินใจอย่างเด็ดขาดแล้ว ก็เอ่ยปากกราบลาครูสน และชักชวนนายเล กลับบ้าน พร้อมกับความรู้ที่ครูสน ให้หลวงพ่อคูณ เป็นบทเพลงโคราชบทหนึ่ง เนื้อหาเป็นบทเกี้ยวพาราสี ตัดพ้อต่อว่าสาวเพื่อทําให้สาวเกิดความสงสารเห็นใจบทเพลงนี้อยู่มีว่า โอ โอม ที่เขาตักบาตร ทําบุญ ถึงตัวไอ้หมอคูณก็ย่อมได้ทําบ่อย สาวเอยสาวน่อยที่ยอมให้ทําบ้าง บัดนี้รูปของเขาน่ะคือหมื่นคือขุน บัดว่ารูปของเขาน่ะคือหมื่นคือขุน บัดว่ารูปไอ้คูณนี่คือลิงคือค่าง คือ ลิง คือค่างรูปร่างไม่เหมือนใคร เหมือนเขาก่อไฟ คือ ดุ้น ไม่ทําเบี่ยงทําบ่าย ก็ย่อมไม่ทําบ่อย เมื่อครั้งเป็นเด็กน่อย พี่พี่ก็ยอมให้ทําได้บ้าง ผีเอย เมื่อไรจะมากินข้า อยู่ได้ก็ชิงแต่หมา กินเข่า เสือใหญ่เท่าควายเอย เมื่อไรจะมากิน คูณ หลังจากกลับมาจากการเรียนเป็นหมอเพลงโคราช หลวงพ่อคูณได้ ไปอยู่ในความอุปการะของน้าเขย ชื่อ เขียว น้าสาวชื่อ ทองมี พาวขุนทด เป็นเวลา 2 ปี ต่อมาย้ายไปอยู่ในความอุปการะของน้าชาย ชื่อ พรม น้าสะใภ้ชื่อ รอด ศิลปะชัย อีก 2 ปี จนอายุได้ 21 ปี จึงเข้าบรรพชาอุปสมบท ช่วงที่หลวงพ่อคูณ มีอายุได้ 21 ปี เกิดมีจิตศรัทธาที่จะบรรพชาอุปสมบท ในบวรพุทธศาสนา ตามประเพณีเพื่อทดแทนพระคุณบิดา-มารดา จึงได้บรรพชาอุปสมบท ณ พัทธสีมา วัดถนนหักใหญ่ ต กุดพิมาน อ ด่านขุนทด เมื่อวันที่ 2 พ ค คม 2487 เวลา 11.00 น โดยมีพระครูวิจารยติกิจอดีตเจ้าอาวาสวัดถนนหักน้อย อดีตเจ้าคณะอําเภอด่านขุนทด เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอธิการสี วัดบ้านจั่น อ ด่านขุนทด เป็นกรรมวาจาจารย์ พริธการสุข วัดโคกรักษ์ อ ด่านขุนทด เป็นอนุสาวนาจารย์ คําอธิฐานของหลวงพ่อคูณ กูตั้งใจจะบวชซัก 3 พรรษา ครั้งแรกก่อนจะอุปสมบทเป็นพระภิกษุ หลวงพ่อคูณ ตั้งใจจะบวชให้ได้สามพรรษา เมื่อบวชแล้วจิตใจ หลวงพ่อคูณ ก็ครุ่นคิดถึงภาพในอดีตตั้งแต่เยาว์วัย เห็นสภาพแวดล้อม ความยากลําบากของท้องถิ่น ทุรกันดารในบ้านเกิดเมืองนอน จึงคิดอยู่ตลอดเวลาว่า ทําอย่างไรจะช่วยคนเหล่านี้ให้พ้นทุกข์ได้ อันตัวกูก็ต่ําต้อยน่อยค่า อย่างนี้ ถ้าสึกออกไปจะทําประโยชน์อะไรให่คนในแผ่นดิน ลําพังการเลี้ยงตัวเองก็เอาไม่รอด แต่กี่บวชถือศีลอยู่ หากมีความรู่ มีคุณธรรม อาจจะช่วยเหลือเกื้อกูลพวกเขาให่พ่นวิบากกรรมได้มากกว่า ภาษาโคราช หลังจากได้คิดหลวงพ่อคูณจึงตัดสินใจอย่างแนวแน่ว่าจะอุทิศกายถวายชีวิตเพื่อบวรพระพุทธศาสนาตลอดไป เมื่ออุปสมบทแล้ว หลวงพ่อคูณ ได้จําพรรษา อยู่ ณ วัดถนนหักใหญ่ ต กุดพิมาน อ ด่านขุนทด โดยมี หลวงพ่อคง พุทธฺสโร เป็นเจ้าอาวาส หลวงพ่อคูณได้อยู่รับใช้หลวงพ่อคงไม่นานนัก หลวงพ่อคง จึงได้นําหลวงพ่อคูณ ไปฝากเป็นศิษย์หลวงพ่อแดง วัดหนองโพธิ์ อ เทพารักษ์ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในด้านวิปัสสนากัมมัฏฐาน ยิ่งเรื่องญาณสมาธิแล้ว หลวงพ่อแดงมีชื่อเสียงโด่งดังมาก หลวงพ่อคูณ ตั้งใจศึกษาหาความรู้และเข้าใจในการปฏิบัติในด้านวิปัสสนากัมมัฏฐานเป็นอย่างดี สร้างความพอใจให้แก่หลวงพ่อคง เป็นยิ่งนัก หลวงพ่อคงจึงแนะนําหลวงพ่อคูณว่า การเรียนวิปัสสนากัมมัฏฐาน จะรู้แจ้งเห็นจริงได้นั้